ดิฉันป่วยอยู่หลายวันภายหลังจากที่ดิฉันถูกยกขึ้นมาจากอุ้งเล็บของนรก ดิฉันต้องเปิดไฟไว้ในตอนที่ดิฉันนอน ดิฉันต้องการมีพระคัมภีร์ไบเบิ้ลติดตัวไว้ตลอดเวลา และดิฉันอ่านพระคัมภีร์อย่างสม่ำเสมอ วิญญาณของดิฉันตกอยู่ในอาการช็อคอย่างร้ายแรง ดิฉันรู้ ณ บัดนี้แล้วว่าพวกที่สูญเสียจะต้องรับอะไรบ้างเมื่อเขาไปสู่นรกเพื่ออยู่ที่นั่น
พระเยซูคริสต์อาจะพูด "สันติ จงสงบ" และสันติอาจจะเอ่อล้นวิญาณของดิฉัน แต่ว่าเพียงสองสามนาทีต่อมา ดิฉันอาจจะตื่นขึ้นมากรีดร้อง กรีดร้องอย่างคนป็นโรคฮีสทีเรีย ด้วยความกลัว
ในระหว่างเวลานี้ ดิฉันรู้ว่ามิได้อยู่โดดเดี่ยว พระเยซูคริสต์อยู่ที่นั่นเสมอ แต่แม้ว่าจะรู้เช่นนั้น ในบางครั้งดิฉันไม่รู้สึกถึงการปรากฏของพระองค์ และดิฉันกลัวการที่จะต้องกลับคืนไปยังนรกมาก ซึ่งดิฉันกลัวแม้กระทั่งว่ามีพระเยซูคริสต์อยู่ใกล้ดิฉันในบางครั้งก็ตาม
ดิฉันพยายามที่จะบอกคนอื่น ๆ เกี่ยวกับประสบการณ์ ของดิฉันในนรก พวกเขาอาจจะไม่ฟังดิฉัน ดิฉันขอร้องพวกเขา "โปรดเถิด จงสำนึกในความผิดบาปของท่านก่อนที่มันจะสายเกินไป"
มันเป็นการยากสำหรับบางคนจะเชื่อในสิ่งที่ดิฉันได้บอกแก่พวกเขาเกี่ยวกับการทรมานที่ดิฉันได้ประสบมาและวิธีที่พระเยซูคริสต์ได้บอกให้เขียนเกี่ยวกับนรก
พระเยซูคริสต์รับรองกับดิฉันว่าพระองค์เป็นพระเจ้าผู้รักษาดิฉัน และถึงแม้ว่าดิฉันจะเชื่อ แต่ดิฉันก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอย่างเต็มที่ การรักษาได้มาถึงแล้ว
และแล้วมันได้เกิดขึ้นอีก ดิฉันอยู่ในสภาพจิตวิญญาณร่วมกับพระเยซูคริสต์เจ้าอีก และเรากำลังบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
พระเยซูคริสต์ ตรัส "เราต้องการที่จะเปิดเผยให้เจ้าได้เห็นความรักและความดีของพระเจ้าและส่วนต่าง ๆ ของสวรรค์ เราต้องการให้เจ้ามองเห็นงานที่มหัศจรรย์ของพระเจ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่สวยงามจริง ๆ ที่จะได้เห็น "
เบื้องหน้าเราดิฉันได้เห็นดาวเคราะห์ ขนาดยักษ์สองดวง มีความสวยงามและสง่างามในความโอ่อ่าหรูหราของมัน พระเจ้าเองเป็นแสงสว่างที่นั่น
ทูตสวรรรค์ท่านหนึ่งพบเราและพูดกับดิฉัน "จงดูความดีและความกรุณาของพระเจ้าของเจ้า ความกรุณาของพระองค์ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์" มีความรู้สึกที่แข็งแรงเกี่ยวกับความรักและความอ่อนโยนเกี่ยวกับทูตสวรรค์เสียจนกระทั่งดิฉันเกือบจะร้องไห้เมื่อเขาพูดอีก "จงดูอำนาจและอานุภาพและความสว่างของพระเจ้า ขอให้ฉันแสดงให้คุณเห็นสถานที่ ที่พระองค์ได้สร้างสำหรับพวกเด็ก ๆ "
ในทันใดนั่นเอง มีดาวเคราะห์ดวงใหญ่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเรา ดาวเคราะห์ขนาดใหญ่เท่ากับโลก และแล้วดิฉันได้ยินเสียงของพระบิดากำลังตรัส "พระบิดา พระบุตร และพระจิต ทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียว พระบิดาและพระบุตรเป็นหนึ่งเดียว และพระบิดาและพระจิตเป็นหนึ่งเดียว เราได้ส่งบุตรชายของเราให้ไปตายบนไม้กางเขนเพื่อว่าจะได้ไม่มีใครต้องสูญเสีย "
"แต่ว่า " พระองค์ตรัสพร้อมกับยิ้ม "เรากำลังจะแสดงให้เจ้าได้เห็นสถานที่ ที่เราสร้างไว้เพื่อเด็ก ๆ ของเรา เราใส่ใจอย่างใหญ่หลวงต่อเด็ก ๆ ของเรา เราใส่ใจเมื่อมารดาสูญเสียเด็ก แม้เป็นดั่งลูกหลานของเจ้าที่เด็กเกิดก่อนกำหนด เด็กของเราเอ๋ย เจ้าเห็นไหมเล่า เราดูทุกสิ่งและเราใส่ใจ "
จากเวลาที่มีชีวิตเกิดขึ้นในมดลูกของลูก เรารู้เกี่ยวกับเด็กทารกที่อาจจะถูกฆาตกรรมในขณะที่พวกเขายังอยู่ในร่างของมารดา ชีวิตที่ถูกทำแท้งซึ่งถูกทอดทิ้งและไม่เป็นที่ต้องการ เรารู้เกี่ยวกับการตายเมื่อเกิดและเด็ก ๆ เหล่านั้นผู้ได้เกิดมาพร้อมกับความพิการทุพพลภาพ จากกาลเวลาแห่งการตั้งครรภ์ นั่นเป็นวิญญาณ
ทูตสวรรค์ของเราได้ลงไปและนำเอาเด็ก มาให้เราเมื่อพวกเขาตาย เรามีสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งพวกเขาสามารถที่จะเติบโตได้ เรียนรู้และเป็นที่รัก เราได้ให้ร่างกายทั้งร่างแก่พวกเขาและสร้างส่วนต่าง ๆ ที่พวกเขาขาดไปขึ้นมาใหม่ เราได้ให้ร่างกายที่งดงามแก่พวกเขา "
ทั่วตลอดทั้งดาวพระเคราะห์ดวงนี้มีความรู้สึกแห่งการเป็นที่รัก มีความรู้สึกแห่งความเป็นอยู่ที่ดีอย่างสมบูรณ์ ทุกสิ่งล้วนสมบูรณ์ ที่นี่และที่นั่นในท่ามกลางหญ้าเขียวชะอุ่มและสระแห่งน้ำใสสะอาดเหมือนแก้วเป็นสนามเด็กเล่นที่มีนั่งเป็นหินอ่อนและมีม้านั่งที่ทำด้วยไม้ที่ได้รับการขัดเงาอย่างสูงล้ำสำหรับเป็นที่นั่ง
และมีเด็ก ๆ ทุกหนทุกแห่งที่คนมองไป มีเด็ก ๆ กำลังเดินไปโดยรอบกิจกรรมทุกชนิด เด็กแต่ละคนสวมใส่เสื้อคลุมสีขาวที่ไม่มีจุดสกปรกและรองเท้าสวมเดินเล่น เสื้อคลุมสีขาวนั้นสดใสมากจนมันวาวในแสงสว่างที่ตระการตาบนดาวนพเคราะห์ สีสรรค์มากมายในทุกแห่งหนได้เน้นให้เห็นความขาวของเสื้อคลุมของเด็ก ๆ ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น เหล่าทูตสวรรค์เป็นผู้รักษาประตู และชื่อของเด็ก ๆ ถูกเขียนไว้ในหนังสือเล่มหนึ่ง
ดิฉันเห็นเด็ก ๆ กำลังเรียนวจนะของพระเจ้าและได้รับการสอนดนตรีจากหนังสือทองคำดิฉันแปลกใจที่ได้เห็นสัตว์ทุกชนิด กำลังมาหาเด็ก ๆ หรือกำลังนั่งข้างเด็ก ๆ ในขณะที่พวกเด็กๆอยู่ในโรงเรียนทูตสวรรค์
ไม่มีน้ำตาและไม่มีความเสียใจ ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่สวยงามอย่างยิ่ง และความสนุกสนานและความสุขมีในทุกที่ทุกแห่ง และครั้นแล้วทูตสวรรค์ ได้สำแดงให้ดิฉันเห็นดาวนพเคราะห์อีกดวงหนึ่งซึ่งเปล่งแสงเหมือนแสงสว่าง ณ เบื้องหน้าดิฉัน แสงสว่างนั้นเป็นประกายด้วยรัศมีแห่งดวงดาวนับล้านดวง และทุกสิ่งบนดาวนพเคราะห์นั้นสวยงามและมีชีวิตชีวา
ในที่ห่างไกลดิฉันเห็นภูเขาสองลูกที่ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ ในขณะเดียวกันสิ่งที่อยู่ใกล้ดิฉันมากกว่าเป็นประตูสองประตูที่ทำด้วยทองคำ ซึ่งประดับด้วยเพชรและประดับด้วยหินล้ำค่าอื่น ๆ ดิฉันรู้ว่านี่คือโลกใหม่และว่านครซึ่งตั้งอยู่อย่างสง่างามเบื้องหน้าดิฉันนั้นคือนครนิว เยรูซาเล็ม (นครเยรูซาเล็มใหม่) อันเป็นนครแห่งพระเจ้าที่จะลงมาในโลก
และครั้นแล้วดิฉันกลับมาสู่โลกเดิม โลกเดิมที่มันได้เป็นอยู่ก่อนไฟครั้งสุดท้ายจะทำให้มันสะอาดและทำให้มันบริสุทธิ์เพื่อความประสงค์อันสง่างามของพระเจ้า และ ณ ที่นี้ด้วยเหมือนกันที่เป็นนครเยรูซาเลมใหม่ อันเป็นเมืองหลวงแห่งยุคหนึ่งพันปีที่จะมีความสุขที่สุด และดิฉันมองเห็นผู้คนกำลังออกมาจากถ้าและออกมาจากภูเขาและกำลังเตรียมหนทางของพวกเขาตรงไปยังนครแห่งนี้
ที่นี่พระเยซูเคริสต์ป็นพระราชา และทุกประชาชาติในโลกได้นำเอาของขวัญมาถวายแด่พระองค์และแสดงความเคารพต่อพระองค์
พระเยซูคริสต์ได้ให้การอธิบายแก่ดิฉันถึงภาพที่ปรากฏของดิฉัน พระองค์ตรัส "ในไม่ช้าเราจะกลับมาและนำกลับคืนไปสู่สวรรค์พร้อมกับเรา แรกทีเดียวก็พวกคนตายในความชอบธรรม "
ต่อมาตามหลังพวกแรกก็เป็นพวกที่มีชีวิตอยู่และส่วนที่เหลือจะถูกนำขึ้นพร้อมกับเราในอากาศ สิ่งที่จะติดตามมาหลังจากนั้น พวกต่อต้านพระคริสต์จะปกครองบนโลกในช่วงที่ถูกกำหนดไว้แล้ว และจะมีภัยพิบัติชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน หรือจะไม่มีอีกต่อไป
และแล้วเราจะกลับคืนพร้อมกับนักบุญของเรา และซาตานจะถูกเหวี่ยงลงไปสู่กับดักที่ปราศจากก้น ซึ่ง ณ ที่นั่นเขาจะอยู่เป็นเวลาหนึ่งพันปี ในระหว่างหนึ่งพันปีนั้น เราจะปกครองทั้งโลกจากกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อหนึ่งพันปีผ่านพ้นไป ซาตานจะถูกปลดปล่อยเป็นเวลาหนึ่งฤดูกาล และเราจะพิชิตเขาโดยความสว่างแห่งการมาของเรา โลกเก่าจะหายไป
จงดูเถิด จะมีโลกใหม่และมีนครเยรูซาเล็มใหม่ที่กำลังจะมาถึงโลกนั้น และเราจะปกครองตลอดกาลนิรันดร์ "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น